Pages:
Actions
  • #1 by A4 on 20 Apr 2012
  • เอาล่ะค่ะชาวทำเลดีค่ะ กระทู้นี้ดิฉันของมาคุยเรื่องแบบหลังคาบ้านกันนะค่ะว่าทำไมแบบหลังคาบ้านถึงสะท้อนสไตร์ชีวิตของเราออกมาทางแบบหลังคาบ้านได้ ลองออกมายืนไกลจากตัวบ้านของเราดูสิค่ะ สิ่งที่เราเห็นคืออะไร ใช่แล้วค่ะมันมีอยู่ทั้งหมด 3 ส่วนที่เรา ส่วนที่ใหญ่ที่สุดก็คือ ตัวบ้าน ส่วนที่ 2 หลังคาบ้าน และส่วนสุดท้ายก็คือ ประตูและหน้าตาบ้านนั้นเอง เห็นไหมล่ะค่ะว่าแบบหลังคาบ้านมีส่วนต่อภาพลักษณ์ที่คนมองเรามากขนาดไหน ยิ่งถ้าเป็นบ้านในกรุงเทพมหานครที่มีรั้วสูงด้วยแล้วหลังคาบ้านยิ่งกลายเป็นจุดเด่นเลยค่ะ


    รูปภาพแต่ละรูปเราสามารถบอกได้ทันทีว่าคนวาดเป็นอย่างไร รูปภาพรูปนี้สะท้อนแนวคิดอะไรซึ่งดูได้จากลายเส้นแล้วก็การลงสี มันสะท้อนถึงยุคสมัย แบบหลังคาบ้านก็เช่นกันค่ะมันถูกคิดมาด้วยแนวคิดเดียวกันกับรูปวาดนั้นแหละ แบบหลังคาบ้านที่เราเห็นอยู่นั้นถูกออกแบบมาในยุคที่แตกต่างกันพอสมควรค่ะ แบบหลังคาบ้านบางแบบในยุคนี้ก็มีการล้มหายตายจากกันไปเช่นกันค่ะ ยกตัวอย่างเช่นแบบหลังคาปีกผีเสื้อ ทั้งนี้ไม่รู้เป็นเพราะดีไซต์ที่แปลกประหลาดของมันหรือว่าแบบหลังคาบ้านแบบนี้หลังคาบ้านรั่วงานกันแน่ แต่ยุคนี้บ้านใหม่ใหม่ไม่มีใครเค้าติดแบบหลังคาบ้านแบบนี้กันแล้วค่ะ แบบหลังคาบ้านอีกแบบหนึ่งที่เคยนิยมก็คือแบบหลังคาทรงปั้นหยาแต่ด้วยบ้านทรงไทยสมัยนี้น้อยลงน้อยลงทุกทีแบบหลังคาทรางปั้นหยาก็เลยลดความนิยมตามไปด้วย  ส่วนหลังคาที่มาแรงแซงทางโค้งรึปล่าวไม่รู้ต้องเป็นแบบหลังคา SLAB ค่ะที่เราสามารถเห็นได้ทั่วไปในยุคปัจจุบัน โดยจุดเด่นหลักของแบบหลังคา SLAB ก็คือ เมื่อติดตั้งแบบหลังคาบ้านแบบนี้แล้วสามารถใช้ประโยชน์พื้นที่บ้านหลังคาได้ ส่วนประโยชน์อีกขั้นหนึ่งก็คือ มันจะทำให้บ้านของเราเย็นกว่าแบบหลังคาบ้านแบบอื่น


    คราวนี้เรามาดูกันค่ะว่าแบบหลังคาบ้านมีอะไรบ้าง โดยเรายกแบบหลังคาบ้านมาให้ดูทั้งหมด 7 แบบ มีตั้งแต่แบบบ้านที่นิยมที่สุดจนถึงแบบบ้านที่เป็นดาวร่วงของวงการเลย




    แบบหลังคาบ้านทั้งหมด
    1.หลังคา SLAB หรือหลังคาแบน สามารถใช้ประ โยชน์บนหลังคาได้ แต่ต้องระวังการรั่วซึม ใช้เป็นที่พักผ่อน ตากผ้า ใช้กับตึกอาคารทันสมัยทั่วไปในปัจจุบัน มองไม่เห็นตัวหลังคา ทำให้ออกแบบได้หลากหลาย หลังคาแบนซึ่งทำด้วยคอนกรีตจะสะสมความร้อนไว้มากกว่าหลังคาที่มุงด้วยกระเบื้องดินเผาและกระเบื้องคอนกรีต ทำให้เกิดการคายความร้อนออกมาในช่วงที่อากาศเย็นลง คือ เวลากลางคืน ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกร้อนอบอ้าวเมื่อกลับมาบ้านในเวลาเย็น การที่หลังคาแบนมีความลาดเอียงน้อย น้ำฝนจึงมักขังอยู่บนหลังคาได้ง่าย ทำให้เกิดการรั่วซึมอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าก่อสร้างได้ถูกวิธีก็ไม่มีปัญหาค่ะ

    2. หลังคาเพิงหมาแหงน คือ หลังคาที่เอียงไปด้าน เดียว ราคาถูก และก่อสร้างง่าย

    3. หลังคาทรงมนิลา หรือหลังคาหน้าจั่ว คือ หลังคา ที่มีสันตรงกลาง และลาดลงทั้ง 2 ข้าง เป็นรูปทรงที่สืบทอดกันมา ตั้งแต่สมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เหมาะกับสภาพภูมิอากาศเขตศูนย์สูตรอย่างบ้านเรา เนื่องจากมีฝนตกชุกหลังคาจั่วสามารถระบายน้ำฝนออกไปได้เร็ว และป้องกันแดดได้ดีเนื่องจากชายคายื่นยาวสองด้านส่วนด้านสกัดหรือด้านแคบ แม้ยื่นชายคาไม่ได้มากก็ไม่นิยมทำหน้าต่างด้านนี้

    4. หลังคาทรงปั้นหยา ได้แพร่เข้ามาสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งยุคล่าอาณานิคมของประเทศมหาอำนาจในยุโรป เป็นหลังคาที่กันแดดกันฝน ได้ทุกด้าน แต่ราคาแพงกว่าแบบจั่ว ได้กลายเป็นหลังคารูปทรงหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจวบจนปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะหลังคาทรงนี้สามารถยื่นชายคาเพื่อบังแดดและฝนได้ทั้งสี่ด้าน การระบายน้ำฝนและการป้องกันการรั่วซึม ค่อนข้างจะเสียเปรียบหลังคาจั่ว เนื่องจากมีรอยต่อมากกว่า
    แต่ถ้ามุงได้ถูกวิธีและดูแลรักษาตามสภาพก็จะไม่รั่วซึมค่ะ

    5. หลังคาปีกผีเสื้อ ปัจจุบันไม่นิยมกันแล้ว เพราะ จะเอียงกลับเข้ามาตรงกลาง ซึ่งเป็นรางน้ำทำให้รั่วง่าย

    6.หลังคาโค้ง นิยมในบ้านสไตล์โมเดิร์น หรือโรงงานค่ะ หลังคาทำด้วย Metal sheet และอลูมิเนียมขึ้นรูปค่ะ

    7.หลังคาทรงอิสระอื่นๆ เช่นทรงโค้งเป็นลอนไปมา ทรงไร้ทิศทาง ใช้กับอาคารที่ต้องการความแปลกใหม่ วัสดุที่ใช้มุงเป็นพวกเหล็กขึ้นรูปและอลูมิเนียมขึ้นรูปค่ะ
Pages:
Actions